นอกจากโควิด19 แล้วก็ยังมี #SaveRalph ประเด็นที่เป็นกระแสมาแรงในช่วงนี้เลย ซึ่งเป็นกระแสการรณรงค์งดการทดลองเครื่องสำอางกับสัตว์ทุกประเภท
Save Ralph คืออะไร?
ก่อนอื่นเลยนะคะ เรามาท้าวความถึงคำว่า Save Ralph กันก่อนเลย
Save Ralph เป็นชื่อของคลิปวีดีโอหนังสั้น ของทาง The Humane Society of the United States หรือ สมาคมมนุษยธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ได้ปล่อยออกสู่โลกโซเชียล และกลายเป็นกระแสที่พูดถึงกันทั่วโลก โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้น เป็นแอนิเมชันแบบสต็อปโมชั่น ที่ได้การกำกับและเขียนบทโดยผู้กำกับหนังที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง ‘Spencer Susser’ เนื้อเรื่องของหนังจะบอกถึงเรื่องราวชีวิตของเจ้ากระต่ายตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ราล์ฟ’ ที่ชีวิตของเขาอยู่แต่ในห้องทดลองและสิ่งที่กระต่ายตัวนี้ต้องเจอ คือ หน้าที่ในการทดลองส่วนผสมต่าง ๆ ก่อนที่จะนำมาใช้ผลิตเป็นเครื่องสำอางเสริมความงามให้กับมนุษย์ โดยการทดลองเหล่านั้น เรียกว่าเป็นสิ่งที่โหดร้ายมาก ๆ กับสัตว์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่นักวิทยาศาสตร์ทำการฉีดสารทดลองใส่ดวงตาของสัตว์ จนทำให้สัตว์ตาบอด หูหนวก รวมไปถึงการถูกกล้อนขนออก ซึ่งจะส่งผลระคายเคืองต่อผิวหนังของสัตว์ ต้นเหตุของการกระทำเรื่องโหดร้ายเหล่านี้ เพียงเพราะว่า มนุษย์อยากจะผลิตเครื่องสำอาง (ไม่ว่าจะเป็น ครีม ลิปสติก เป็นต้น)เพื่อนำมาใช้อย่างปลอดภัยเพียงเท่านั้น
ภาพยนต์สั้นเรื่องนี้ จึงถูกใช้ให้คนบนโลกรณรงค์ เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทดลองหรือทดสอบในสัตว์ เนื่องจากในขั้นตอนของการผลิตสินค้าเหล่านั้น มักจะมีการนำผลิตภัณฑ์ไปทดลองกับสัตว์ ก่อนที่จะวางขายในท้องตลาดให้ประชาชนได้ซื้อใช้กัน นั่นเอง
ทดลองเครื่องสำอางเฉพาะกับกระต่ายเท่านั้นหรือเปล่า?
จริง ๆ แล้วสัตว์ที่ถูกนำไปทดลองนั้น ก็มีมากหลายหลายชนิด เช่น หนู แมว ลิง และสุนัข แต่มักจะนิยมทำการทดลองในสัตว์ที่มีขนาดเล็ก จำพวกหนู กระต่าย เพราะ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม คือ จับง่าย ควบคุมได้ ปลอดโรค มีพันธุกรรมที่แน่นอน สามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว รวมถึงมีผิวหนังที่ตอบสนองได้ไวและใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด
โดยวิธีที่ใช้ในการทดสอบในสัตว์ เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการทดลอง ทดสอบกับผิวหนังของสัตว์ ไปจนถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หยอด หรือ ฉีดลงไปบริเวณดวงตาของสัตว์ ผลการทดลองเหล่านี้ มักจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือทำให้สัตว์พิการได้
#SaveRalph เลิกทดลองเครื่องสำอางในสัตว์
สัตว์ที่ถูกทดลองเหล่านี้จะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างน่าสงสาร บริษัทบางแห่งจึงเลือกที่จะฆ่าสัตว์เหล่านี้ทิ้ง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ที่ตระหนักถึงสิทธิของสัตว์มากยิ่งขึ้น ได้ออกมาทำแคมเปญเรียกร้องให้บริษัทจำนวนมากหยุดการทดลองในสัตว์ และสนับสนุนให้ประชาชนอุดหนุนสินค้าของบริษัทที่ไม่ทำการทดลองในสัตว์แทน
ถึงแม้ว่าจะมีกฎห้ามทดลองในสัตว์บังคับใช้ใน 40 ประเทศแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ที่ยังคงมีการผลิตเครื่องสำอางโดยทดลองกับสัตว์อยู่ ทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมาก แต่ก็มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านของคนที่ออกมา Save สัตว์ทดลอง และคนที่ออกมา Save ทีมแพทย์ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทางเราคิดเห็นว่า มันเป็นการ ‘ลด’ ไม่ใช่ ‘เลิก’ เช่นเดียวกับประเด็นการ ‘ลด’ ใช้ถุงพลาสติก เพราะถุงพลาสติกก็ยังจำเป็นต้องใช้ในบางกรณี และยังไม่สามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้ ส่วนในประเด็นนี้ บางคนก็มีอาการแพ้เครื่องสำอาง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการทดลองดังกล่าวเช่นกัน
ดังนั้น การรณรงค์ไม่ใช่การบังคับ หรือการแบนแต่อย่างใด แต่ถือเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้คนมากกว่า ถ้าเลือกได้ ยังไงก็อยากให้ทุกคนช่วยกัน ‘ลด’ เครื่องสำอางที่ทดลองกับสัตว์ดีกว่านะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา จาก
https://www.sanook.com/campus/1404316/
https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6343321
https://www.scimath.org/article-biology/item/8485-2018-07-18-04-22-35